ชวน PR ไทย มาใช้ “Share of Search” วัดผล PR กัน
ในยุคดิจิทัลที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว วิธีการวัดผลแคมเปญประ […]
Share on
น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกถึงน้ำจะไม่ล้า แต่ตาล้าได้นะ รู้มั้ย ?
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ประโยคนี้อาจไม่จริงเสมอไป เพราะหลายครั้งที่ความพยายามอยู่ที่ไหน แทนที่จะเห็นเส้นชัย แต่กลายเป็นความเหนื่อยล้าต่างหากที่ตามติดไปที่นั่น ไม่ยกเว้นแม้แต่เรื่องง่ายๆ อย่าง “การเพ่งหน้าจอ”
เพราะชีวิตยุคดิจิทัล สายตากับหน้าจอของเราแทบจะติดหน้าจออย่างหนักหน่วงตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน ทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ จอเกมหรือแม้กระทั่งหนังสือตำราเรียนต่างๆ จนหลายครั้งตาเบลอไปหมด แต่ยิ่งพยายามเพ่งก็ยิ่งมึน ยิ่งมึนก็ยิ่งฝืน จนก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีก เช่น ปวดหัว ตาลาย ตาพร่า หรือมองเห็นภาพซ้อน
ดังนั้น ตัวจริงด้านสายตาอย่าง “หอแว่น” เลยจับมือกับ PR and Content Agency อย่าง Moonshot Digital เพื่อบอกทุกคนว่า ถ้าตาล้าอย่าทู่ซี้ทน เพราะผลของมันคือยิ่งพัง!
ตาล้าไม่ใช่เรื่องตลก แต่ถ้าอยากตลกให้ไปดูโฆษณาหอแว่น
จากภารกิจในครั้งนี้ ทางทีม Moonshot Digital เลยค้นจนพบคำตอบว่า ความจริงแล้วคนส่วนใหญ่ประสบปัญหาตาล้ากันทุกเพศทุกวัย เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่ก็ฝืนทนทำกิจกรรมนั้นต่อไป เหมือนความสัมพันธ์ที่เราตัดไม่ขาด แต่ก็ทำร้ายเราทุกวัน สะสมจนกลายเป็นปัญหาระยะยาวยากเกินแก้ หลายคนเข้าใจแว่นกรองแสงสีฟ้าก็พอแล้วมั้ง แต่ความจริงคือการแก้ปัญหานั้นไม่ตรงจุด จะดีกว่ามากหากเราสามารถปกป้องและช่วยลดภาระให้กล้ามเนื้อตาของตัวเองได้ เพราะนั่นต่างหากตัวการความล้าที่แท้จริง
ทางหอแว่นบอกเลยว่า กลุ่มที่อยากกดปุ่ม care ให้มากสุดคือ นักเรียน/นักศึกษา, เกมเมอร์ และพนักงานออฟฟิศ เพราะกิจวัตรประจำวันของพวกเขาก่อให้เกิดอาการตาล้าได้ง่าย ว่าแต่พวกเราจะ #Save ตาล้าและสื่อสารกับพวกเขาอย่างไรดี
Moonshot จึงลงมือทำการบ้าน แล้วพบว่าต้นตอสำคัญคือ…ความเชื่อ!
เพราะเชื่อว่า ‘เค้าว่ากันว่า..’ ‘คนโบราณถือ’ ‘ทำตามไว้ไม่เสียหาย’ หลายคนเลยแก้ปัญหาแบบไม่ตรงจุด จนทำให้เสียทั้งเวลาและสุขภาพ เราจึงอยากผูงโยงความเชื่อหลากหลายรูปแบบ มาเล่าเป็นเรื่องราวความล้า บวกเข้ากับอารมณ์ขันแบบไทยๆ ที่เข้าถึงง่าย ไม่ถาโถมด้วยข้อมูลที่หนักหน่วงจนเกินไป แต่สามารถเชื่อมโยงไปถึงคุณค่าของสินค้าได้อย่างชัดเจน กลายเป็นที่มาของภาพยนตร์โฆษณา #ยิ่งล้ายิ่งพัง ที่ถ่ายทอดเรื่องราว 3 สถานการณ์โดยมีเลนส์ Zeen จากหอแว่นเป็นพระเอกตัวจริง
ให้มันจบที่เลนส์เรา!
เริ่มต้นกันที่เรื่องราวของนักเรียน/นักศึกษา กลุ่มนี้นอกจากจะตามโซเชียลกันเป็นระวิงแล้ว ก็ใช้สายตาไปกับการเรียน โปรเจกต์ และการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบไม่แพ้กัน เรียกว่ามุ่งมั่นจนตาเบลอ อ่านต่อไม่ไหว กลัวสอบตก ทางออกของหลายคนคือ บนศาลเจ้าค่ะ! แต่เสียใจด้วยนะ เพราะขนาดเจ้าพ่อท่านยังแนะว่าผิดทางแล้วจ้ะหนู
กระโดดมาที่เกมเมอร์ กลุ่มนี้เพ่งหน้าจอหนัก ถ้าไม่อยู่กับโทรศัพท์ก็อยู่กับคอมพิวเตอร์ เราคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าบางคนก็ถึงขั้นไม่กินไม่นอนจนน็อคไปเลย พอเล่นเกมหนัก ไม่ได้พักผ่อนจนสายตาล้า อาการที่ตามมาคือ บางคนเริ่มปวดหัว หงุดหงิด ฉุนเฉียวโดยไม่รู้ตัว ขอบตาคล้ำ ไม่สดใส พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป นี่… นี่มันคล้ายคนผีเข้า แต่หมอผีบอกเฮ้ยไม่ใช่! จะปล่อยไว้อย่างนี้เสียชื่อคนเล่นเกมหมด คนเขาจะหาว่าเกมทำให้เราก้าวร้าว เปงเส้ากันไปใหญ่
มาถึงกลุ่มสุดท้าย พนักงานออฟฟิศ ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานตลอดวัน แถมยังติดซีรีส์ตลอดคืน กลุ่มนี้อ่อนไหวง่าย เพราะนอนน้อย นายก็ทวงงานซ้ำยังตาล้า พอเพื่อนป้ายยาว่าอะไรดีก็ต้องเอามาลองสักหน่อย กด Add to Basket รัวๆ พร้อมเปย์หมด เช่น ยาห่อแก้ทุกโรค ยาต้มสมุนไพรลึกลับ น้ำมันนวดครอบจักรวาล ที่เอาเข้าจริงก็เสี่ยงอยู่ไม่น้อย เป็นพลังแห่งความเชื่อล้วนๆ เลยค่ะ
ด้วยปัญหาทั้งหมดนี้ เลนส์ Zeen จากหอแว่น ที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องจากปัญหาตาล้า และให้ดวงตาผ่อนคลายได้ทุกเวลา จึงเป็นคำตอบให้เหล่าตัวละคร #Save ตัวเองได้ทันเวลาก่อนชีวิตพัง
สังเกตไหม เขาคนนั้นเป็นคนเดียวกัน!
นอกจากเนื้อหาที่เน้นเจาะ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย ทีมยังสนุกกับการเติมกิมมิกเล็กๆ ให้เป็นสีสัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพ่อศาล หมอผี และเจ้านาย ที่รับบทโดยนักแสดงคนเดียวกัน เพื่อเชื่อมโยง ร้อยเรียงเหตุการณ์และตอกย้ำว่าปัญหาสายตาล้าเกิดได้ทุกคนทุกที่ (ความลับก็คือ ศาลเจ้าพ่อใต้ต้นไม้นั้นไม่มีอยู่จริง แต่ถูกสร้างใหม่แบบสมจริงสุดๆ ชนิดที่มีคนเผลอเปิดน้ำแดงถวายให้)
นอกจากนั้น เพื่อต่อยอดความสนุกให้หนังโฆษณาเกิด Conversion จึงมีการจัดกิจกรรมออนไลน์ “ขอไทม์เธอแลกโปรโมฯ” ที่เราได้ไอเดียจาก Notification หรือข้อความแจ้งว่า แต่ละสัปดาห์เราใช้เวลาบนหน้าจอนานแค่ไหน กลายเป็นกิจกรรมชวนทุกคนมาแชร์เวลาการใช้หน้าจอ (Screen Time) ในแต่ละสัปดาห์ของตัวเอง และรับสิทธิพิเศษในการอัพเกรดเลนส์ฟรีในมูลค่า 3,000 บาททันที!
ปกป้องสายตา เพราะ #ยิ่งล้ายิ่งพัง
จากข้อมูลผู้ร่วมสนุก มีบางคนที่ใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์สูงถึง 14 ชั่วโมง! และรู้ไหมว่าจากผลสำรวจของ ETDA ชั่วโมงการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็น 10 ชั่วโมง 22 นาทีในปี 2562 แทบจะกินเวลาช่วงตื่นนอนทั้งหมดเลยทีเดียว นั่นหมายความว่าเราใช้สายตาเพ่งจอเกือบตลอด ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการต่างๆ เกี่ยวกับสายตาตามมาได้
และนี่คือการเดินทางของโปรเจกต์เลนส์ Zeen ตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาตาล้า ซึ่งหากยิ่งปล่อยไว้ย่อมส่งผลเสียมากกว่า การพักสายตา บริหารดวงตาหรือหยอดน้ำตาเทียมอาจพอช่วยได้ แต่ก็มักทำได้แค่ครั้งคราวเท่านั้น สู้เลือกจบปัญหาระยะยาวด้วยกันดีกว่า
สุดท้ายนี้ พวกเรา Moonshot ต้องขอขอบคุณลูกค้าใจดี หอแว่น ที่ไว้วางใจและเปิดโอกาสให้เราได้ร่วมสื่อสารและทำงานสนุกๆ นี้ร่วมกัน
หากคุณกำลังมองหาหนทางสร้างสรรค์สำหรับสินค้าและบริการ เพียงติดต่อ Moonshot Digital ทุกความปรารถนาก็จะเป็นไปตามเป้าหมาย